Home
» เก็บมาเล่าให้ฟัง
» เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง
» ฮาร์ดแวร์
» วิธีการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง
วิธีการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง
in
เก็บมาเล่าให้ฟัง,
เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง,
ฮาร์ดแวร์
- on 17:51
สำหรับการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองนั้น เมื่อเทียบกับสินค้าอื่นๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เสื้อผ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในการซื้อ พวกมันอาจไม่ได้มีการรับประกัน อาจมีข้อบกพร่อง และไม่อาจทำงานได้เหมือนกับสินค้ารุ่นใหม่ แต่การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองอาจจะช่วยคุณประหยัดเงินและช่วยลดของเสียต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเมื่อคุณตัดสินใจซื้อเครื่องใช้มือสองแล้ว คุณควรจะมีวิธีเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าตามวิธีที่เราแนะนำดังต่อไปนี้
- หาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองที่ต้องการซื้อ สินค้าบางชนิดมีอายุการใช้งานได้ไม่นาน ทำให้ไม่คุ้มค่าต่อการซื้อมา เมื่อมันใกล้จะพังแล้ว นอกจากนี้คุณควรจะดูว่าสินค้ามีความยุ่งยากต่อการซ่อมแซมหรือไม่ เพราะว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าบางรุ่นเมื่อเก่าไปแล้ว จะหาอะไหล่มาซ่อมยาก ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองที่คุณซื้อมาอาจจะทำหน้าที่เป็นของตั้งโชว์ได้แค่นั้น
- ถามข้อมูลของสถานที่ซ่อมที่สามารถซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นได้ ถ้าหากผู้ผลิตสินค้าไม่สามารถซ่อมได้ คุณก็ควรจะหาช่างหรือร้านที่จะสามารถซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองนั้นได้ นอกจากนี้คุณยังอาจจะสามารถที่จะหาสิ่งที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้ามือเพื่อที่จะสามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงมันได้
- ถามเกี่ยวกับนโยบายการส่งคืนแลกเปลี่ยน คุณควรจะถามกับร้านที่คุณซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองว่า ร้านจะรับประกันสินค้าไหม ถ้ามันเกิดชำรุดหรือใช้งานไม่ได้ คุณจะได้นำสินค้านั่นได้เปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่หรือขอเงินคืน
- ควรจะทดสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนที่จะซื้อมัน ถ้าคุณซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองมาจากร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านค้าปลีก หรือตลาดนัด คุณควรจะทดสอบมันว่ามันยังสามารถใช้งานได้อย่างเป็นปกติ ไม่มีความเสียหายอะไรเกิดขึ้นกับมัน นั่นอาจจะทำให้แน่ใจว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองที่คุณซื้อมานั้นยังกำลังทำงานได้อยู่
- ควรจะเก็บใบเสร็จรับเงินไว้ด้วย คุณจะต้องมีการรับประกันที่ถูกต้องเพื่อจะได้รับการซ่อมแซมหรือการเปลี่ยนสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกำลังการชำระเงินด้วยเงินสด ใบเสร็จรับเงินจะพิสูจน์ได้ว่าคุณเป็นคนซื้อมันมาและซื้อมาเมื่อใด และคุณก็ควรเก็บใบประกันไว้ด้วย เพราะว่าเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณพัง คุณจะได้มีหลักฐานเพื่อนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปประกันได้